ความรับผิดชอบต่อสังคม

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ดำเนินกิจกรรม หาดสวยทะเลใสด้วยมือเรา มอบชีวิตใหม่ให้เต่า สู่สีสันท้องทะเลไทย ณ เกาะมันใน ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์เต่าทะเล เพื่อฟื้นฟูพันธุ์เต่าทะเลและระบบนิเวศทางทะเลของไทย

เต่าทะเล เป็นสิ่งมีชีวิตที่สืบเชื้อสายมานานนับล้านปี และมีถิ่นที่อยู่อาศัยอยู่ทั่วทุกมุมโลก โดยในประเทศไทย มีเต่าทะเลทั้งสิ้น 5 สายพันธุ์ ได้แก่ เต่ากระ เต่าตนุ เต่าหญ้า เต่ามะเฟือง และเต่าหัวค้อน โดยเต่าทะเลมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศทางทะเลเป็นอย่างมาก ทั้งในบทบาท ของผู้แพร่ขยายความหลากหลายทางชีวภาพในท้องทะเล เนื่องจากบนหลังของเต่าทะเล เป็นที่อยู่ของเชื้อราและตะไคร่ชนิดต่างๆ อีกทั้ง เต่าทะเล มีพฤติกรรมการเดินทางเป็นระยะทางไกล ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้เอง ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนหลังของเต่าทะเล สามารถไปยังระบบนิเวศทางทะเลแหล่งใหม่ ทำให้เกิดนิเวศทางทะเลที่มีความหลากหลายขึ้น

นอกจากนี้ พฤติกรรมการกินของเต่าทะเลยังช่วยสร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศได้ โดยเต่าทะเลบางชนิด เช่น เต่ามะเฟือง มีพฤติกรรมชอบกินแมงกะพรุนเป็นอาหาร ซึ่งพฤติกรรมนี้เป็นการช่วยการฟื้นตัวของปลาในทะเล เพราะแมงกะพรุนเป็นสัตว์ที่ล่าไข่ปลาเป็นอาหาร หากมีปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลให้ตัวอ่อนขนาดเล็กไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ส่งผลให้ประชากรปลาฟื้นตัวได้ยาก นอกจากเต่ามะเฟืองแล้ว เต่ากระ เป็นเต่าอีกประเภทหนึ่งที่ช่วยสร้างสมดุลทางทะเล เพราะเต่ากระ มีอาหารโปรด คือ ฟองน้ำทะเล การกินฟองน้ำทะเลของเต่ากระ จะช่วยให้จำนวนฟองน้ำทะเลไม่มากเกินไป หากเต่ากระมีจำนวนลดลง จะส่งผลให้ฟองน้ำทะเลมีจำนวนมากจนแทนที่ปะการัง ซึ่งทำให้โครงสร้างของแนวปะการังเปลี่ยนไปและทำให้ระบบนิเวศทางทะเลเปลี่ยนแปลงได้

แต่ถึงเต่าทะเลจะมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศมากมายขนาดไหน จะสร้างคุณค่าให้กับธรรมชาติมากมายเพียงใด ก็ไม่อาจรอดพ้นจากการสูญพันธุ์ที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ไปได้ ปัจจุบัน เต่าทะเลมีจำนวนลดลงเป็นอย่างมาก โดยสาเหตุสำคัญมาจากมนุษย์ทั้งสิ้น ทั้งการที่มนุษย์ได้รุกรานระบบนิเวศชายฝั่ง ซึ่งส่งผลให้เต่าทะเลไม่ขึ้นมาวางไข่ การลักลอบเก็บไข่เต่าทะเล และนำไปขายในราคาสูง ซึ่งทำให้เต่าทะเลขาดทายาท และปัญหาที่สำคัญที่สุด คือ ปัญหาขยะในทะเล ซึ่งปัญหาขยะในทะเลนี้ ทำให้เต่าทะเลหลายตัวเสียชีวิต เต่าทะเลหลายตัวต้องพิการ ไม่สามารถกลับสู่ธรรมชาติอีกต่อไปได้

บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญของเต่าทะเล จึงได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก จัดกิจกรรมปล่อยเต่าทะเลจำนวน 60 ตัวขึ้น เพื่อที่เต่าทะเลจะได้กลับคืนสู่ธรรมชาติและกลับไปสร้างความสมดุลให้แก่ระบบนิเวศได้  

ILC ร่วมใจปล่อยเต่าทะเลตัวน้อยคืนสู่ทะเล ด้วยความหวัง ที่จะเห็นท้องทะเลไทย กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง

นอกจากกิจกรรมปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติแล้ว บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ได้สนับสนุนการอนุรักษ์เต่าทะเลไทย มอบถังไฟเบอร์จำนวน 12 ชุด และ สร้างหลังคาให้แก่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก ปากน้ำประแส เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์เต่าทะเลไทย เพื่อให้เต่าทะเลไทยและท้องทะเลไทย อยู่คู่กับเรา ตลอดไป   

พลัง ILC พิทักษ์เต่าทะเล เพื่ออนาคตที่สดใสของเต่าทะเลไทย

ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ได้ดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ 20,000 ต้น รักษ์ป่าชุมชนสู่วิถีสังคมคาร์บอนต่ำ ที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยการจัดกิจกรรมครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ.2567 ในครั้งนี้ ได้ดำเนินการปลูกต้นไม้ที่ป่าชุมชนบ้านไร่สระจอกและป่าชุมชนบ้านหนองพงษ์ รวมปลูกต้นไม้ทั้งหมด 4,000 ต้น

โครงการปลูกต้นไม้ 20,000 ต้น รักษ์ป่าชุมชนสู่วิถีสังคมคาร์บอนต่ำ เป็นโครงการที่ริเริ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทั่วทั้งโลกประสบปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างรุนแรง โดยปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรง มาจากการที่ป่าไม้ทรุดโทรมลง จากปัญหาดังกล่าว บริษัท ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงริเริ่มโครงการปลูกต้นไม้ 20,000 ต้น รักษ์ป่าชุมชนสู่วิถีสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อเป้าหมายที่จะฟื้นฟูป่าไม้ให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม เพื่อที่ภาวะโลกร้อนจะลดวามรุนแรงลง

โครงการปลูกต้นไม้ของบริษัท ILC เป็นโครงการที่ทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี และในปีนี้ ได้ตั้งเป้าปลูกต้นไม้ให้ได้ 20,000 ต้น ซึ่งเหลือกิจกรรมในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 อีกหนึ่งครั้ง โครงการในครั้งนี้จะบรรลุเป้าหมาย

เมื่อวันที่ 28 กันยายน และ 5 ตุลาคม พ.ศ.2567 บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ได้ดำเนินกิจกรรมปลูกต้นไม้ 20,000 ต้น รักษ์ป่าชุมชนสู่วิถีสังคมคาร์บอนต่ำ ร่วมกับชุมชน ณ ป่าชุมชนบ้านหนองพงษ์ ป่าชุมชนบ้านไร่สระจอก อำเภอท่ามะกา และ ป่าชุมชนบ้านหลังเขา ป่าชุมชนบ้านหนองแกใน ป่าชุมชนบ้านหินดาดทอง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

โครงการปลูกต้นไม้ 20,000 ต้น รักษ์ป่าชุมชนสู่วิถีสังคมคาร์บอนต่ำ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากความต้องการฟื้นฟูความเสื่อมโทรมของป่าไม้ในธรรมชาติ อันเนื่องมาจากความเสื่อมโทรมของป่าไม้ในธรรมชาตินั้น เป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น โดยปัจจุบัน ปัญหาสภาวะโลกร้อนได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ ไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก

สภาวะโลกร้อนเกิดจากการที่ก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้ว การมีต้นไม้ 1 ต้นจะสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 9-15 กิโลกรัมคาร์บอนต่อปี แต่ในปัจจุบันที่พื้นที่ป่าถูกทำลาย ถูกบุกรุกเพื่อการกสิกรรม และการดำเนินกิจกรรมในด้านต่างๆของมนุษย์ ส่งผลให้พื้นที่ป่าลดลง แต่กระนั้น ปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากพฤติกรรมมนุษย์กลับเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ภาวะโลกร้อนรุนแรงมากขึ้น

บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาภาวะโลกร้อน จึงได้ดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ 20,000 ต้น รักษ์ป่าชุมชนสู่วิถีสังคมคาร์บอนต่ำ โดยบริษัทได้ดำเนินโครงการดังกล่าวต่อเนื่องมามากกว่า 10 ปี มุ่งหวังที่จะฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม เพื่อภาวะโลกร้อนลดความรุนแรงลง เพื่อมนุษย์และธรรมชาติจะอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่  13 กันยายน 2567 บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด  คณะผู้บริหาร และพนักงาน ร่วมสมทบทุนโครงการผ้าป่าสามัคคี ILC กิจกรรมจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ จำนวน 2 เครื่อง

• หัวตรวจอวัยวะภายในชนิดพิเศษ โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง แก่กลุ่มงานวิสัญญี จำนวน 1 เครื่อง

• เครื่องตรวจอวัยวะด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ชนิดไร้สาย แก่กลุ่มงานฉุกเฉิน จำนวน 1 เครื่อง

รวมมูลค่า 437,300 บาท ให้กับโรงพยาบาลบางพลี โดยมี นพ.สมศักดิ์  ใช้ทรัพย์สถาพร รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ พร้อมด้วย บุคลากรทางการแพทย์ เป็นผู้รับมอบ ณ โรงพยาบาลบางพลี ซึ่งจะช่วยให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น