ข่าวสาร

ข่าวสาร อัพเดทบทความ ความรู้ต่างๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง และกิจกรรมภายในต่างๆ จาก บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด (ILC)

NEWS, Uncategorized, ข่าวสาร

ILC รับรางวัลสถานประกอบการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับประเทศ ปีที่ 2

วันที่ 11 ธันวาคม 2567 บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด เข้ารับรางวัล “สถานประกอบกิจการต้นแบบดีเด่นด้าน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับประเทศ ปีที่ 2”

“เกียรติบัตรรางวัลสถานประกอบการต้นแบบดีเด่นด้าน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน”

ตามที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ดำเนินโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการต้นแบบระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยจัดให้มีการคัดเลือกสถานประกอบกิจการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประจำปี 2567

รางวัลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ฯ ในการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงาน มีการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด และแสดงถึงความพร้อมของการประกอบกิจการก้าวสู่ระบบมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ข่าวสาร, ความรับผิดชอบต่อสังคม

ILC รับรางวัล CSR-DIW Continuous Awards ประจำปี 2567

วันที่ 13 ธันวาคม 2567 บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด เข้ารับรางวัล “CSR-DIW Continuous Awards” ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลลูม อิมแพ็คชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

รางวัล CSR-DIW Continuous Awards เป็นรางวัลที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยกระทรวงอุตสาหกรรม มอบให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาชุมชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ เพื่อสร้างความไว้วางใจของภาคประชาชนที่มีต่อโรงงานอุตสาหกรรม โดยการจะได้รับรางวัลนั้น ภาคอุตสาหกรรมต้องปฏิบัติตาม 7 หัวข้อหลัก 9 หลักเกณฑ์ปฏิบัติ ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง

ภาพโดย: กรมโรงงานอุตสาหกรรม

รางวัล CSR-DIW Continuous เป็นประเภทหนึ่งของรางวัล CSR-DIW โดยรางวัล CSR-DIW มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่

  • CSR-DIW Beginner คือผู้ที่ได้รางวัลจากการปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งในหัวข้อหลัก ตามมาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม
  • CSR-DIW Awards คือระดับของผู้ประกอบการที่สามารถปฏิบัติตาม 7 หัวข้อหลัก 9 หลักเกณฑ์ปฏิบัติของกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างครบถ้วน
  • CSR-DIW Continuous Awards คือระดับของผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล CSR-DIW จากการปฏิบัติตาม 7 หัวข้อหลัก 9 หลักเกณฑ์ปฏิบัติของกรมโรงงานอุตสาหกรรมครบถ้วนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด เคยได้รับรางวัล CSR-DIW ในปี 2566 และในปีนี้ บริษัทได้รับรางวัล CSR-DIW Continuous อย่างต่อเนื่อง ด้วยความใส่ใจในงาน CSR บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์สังคมแห่งความยั่งยืนต่อไป

NEWS, ข่าวสาร, ความรับผิดชอบต่อสังคม

ILC จัดงานทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2567 ณ วัดบ้านไร่สามัคคี

ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ได้จัดงานทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2567 ณ วัดบ้านไร่สามัคคี อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ งานทอดกฐินสามัคคีของ ILC จัดขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและสืบสานประเพณีไทยให้คงอยู่ อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทและชุมชน รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ภายในองค์กรให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

เหตุผลที่งานทอดกฐินในครั้งนี้ จัดขึ้นที่วัดบ้านไร่สามัคคี เกิดจาก พนักงาน ILC ที่มีบ้านเกิดในอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ได้เสนอชื่อวัดบ้านไร่สามัคคี เนื่องจากในตอนนี้ ทางวัดกำลังดำเนินการสร้างเสริมศาลาปฏิบัติธรรม เพื่อให้อนาคต ศาลาปฏิบัติธรรมแห่งนี้ จะเป็นสถานที่สำหรับทำกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมสาธารณประโชน์ภายในชุมชนได้ ทางบริษัทและพนักงาน ILC ทุกคนที่เล็งเห็นเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับชุมชน จึงร่วมใจกันทำบุญเพื่อให้ศาลาปฏิบัติธรรมสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนและพระพุทธศาสนาสืบไป

ข่าวสาร

ILC ร่วมใจทำบุญตักบาตรเนื่องในวันนวมินทรมหาราช

เมื่อวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2567 บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ร่วมกับวัดพระศรีรัตนธรรมาราม จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันนวมินทรมหาราช โดยมีคณะผู้บริหาร และพนักงาน ร่วมกันทำบุญโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย

กิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างขวัญกำลังใจและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในองค์กร ข้าวสารอาหารแห้งที่ชาว ILC ร่วมกันทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ วัดพระศรีรัตนธรรมารามจะส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยต่อไป

ข่าวสาร

ILC รับรางวัล Thailand Trust Mark ประจำปี พ.ศ.2567

บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ผู้นำและผู้ผลิตเครื่องสำอางในประเทศไทยเข้ารับรางวัล Thailand Trust Mark ประจำปี พ.ศ.2567 ณ ห้องมโนปกรณ์นิติธาดา ชั้น 12 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

ในวันที่ 11 กันยายน 2567 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดงานมอบรางวัล Thailand Trust Mark ประจำปี 2567 ณ ห้องมโนปกรณ์นิติธาดา ชั้น 12 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยในปีนี้บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด และผู้ประกอบการรวมทั้งหมด 30 ราย ได้รับรางวัลในครั้งนี้

รางวัล Thailand Trust Mark เป็นรางวัลที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมอบให้แด่ผู้ประกอบการที่ผ่านมาตรฐานในเรื่องคุณภาพของแหล่งผลิต การใช้แรงงานที่เป็นธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป้าหมายในการส่งเสริมภาพลักษณ์ เอกลักษณ์ของสินค้าไทยและสร้างจุดแข็งของสินค้าไทยบนเวทีโลก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจบนเวทีนานาชาติได้

ข่าวสาร

ILC ได้รับรางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด ประจำปี 2567

บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ผู้นำในธุรกิจเครื่องสำอางและผู้ผลิตเครื่องสำอางแห่งแรกในประเทศไทย ได้รับรางวัล “อย. ควอลิตี้ อวอร์ด“ ในสาขาสถานประกอบการดีเด่นด้านเครื่องสำอางและสาขาผลิตภัณฑ์สุขภาพดีเด่นประเภทนวัตกรรม

วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2567 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้จัดให้มีโครงการส่งเสริมคุณภาพการประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพ​ หรือ​ อย.ควอลิตี้​ อวอร์ด​” ครั้งที่ 16 ประจำปี พ.ศ.2567 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

รางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด เป็นรางวัลที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มอบให้แก่สถานประกอบการที่มีคุณภาพมาตรฐาน มีธรรมาภิบาล และมีความรับผิดชอบต่อสังคม จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2552 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและสร้างกำลังใจแก่สถานประกอบการที่มีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ยังมีความมุ่งหมายต้องการที่จะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

ในครั้งนี้ บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด ได้รับรางวัลในสาขาสถานประกอบการดีเด่นด้านเครื่องสำอาง และรางวัลผลิตภัณฑ์สุขภาพดีเด่นประเภทนวัตกรรมโดยได้รับเกียรติจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานมอบโล่รางวัลในครั้งนี้ สำหรับรางวัลประเภทนวัตกรรมนั้น บริษัทได้คิดค้น Pure​ Care​ Super​ Nano​ Active​ White​ Intensive​ Moisturizer ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เกิดจากการนำนวัตกรรม​ Bio​polymer​ Bead​ และสารสกัดเกสรบัวหลวงมารวมไว้ด้วยกัน จนเกิดเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์​บำรุงผิวสวย​ กระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์​  

บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด จะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย เพื่อผู้บริโภคตลอดไป

ข่าวสาร

DeepFake

DeepFake คลิปปลอมใบหน้าคนดัง เนียนยิ่งกว่า ‘Fake news’

deepfake

เมื่อเทคโนโลยี A.I. ก้าวหน้าไปไกล จนถึงขนาดว่ามีคนทำคลิปปลอม ด้วยการนำใบหน้าคนดังมาสวมเป็นใบหน้าตัวเองได้ ชวนเจาะกระแส DeepFake คลิปปลอมที่เป็นไวรัลในต่างประเทศ ที่อาจแฝงอันตรายยิ่งกว่า “Fake news”


เมื่อไม่นานมานี้ มีกระแสคลิปวิดีโอของคนดังในต่างประเทศ กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์อยู่มากมายหลายชิ้น ที่น่าสนใจคือ คลิปเหล่านั้นเป็น “คลิปปลอม” ในรูปแบบที่เรียกว่า “DeepFake” ถูกทำขึ้นด้วยเทคโนโลยี A.I. โดยการนำใบหน้าของคนดัง (ศิลปิน นักแสดง นักการเมือง เซเลบริตี้) มาสวมใส่แทนใบหน้าของตน ซึ่งการพูดและการเคลื่อนไหวทุกอย่างในคลิป เหมือนว่าเจ้าของใบหน้าตัวจริงมาออกคลิปเอง!
กระแสนี้ทำให้หลายคนอยากรู้ว่าเทคโนโลยี “DeepFake” คืออะไร? คนที่ทำคลิปเหล่านี้ พวกเขาทำมันได้อย่างไร? แล้วสิ่งนี้จะอันตรายยิ่งกว่า Fake news หรือไม่?
DeepFake คืออะไร?
เรื่องนี้มีคำตอบจาก ดร.มนต์ศักดิ์ โซ่เจริญธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายเดตาโซลูชันส์ภาครัฐ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) ซึ่งได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีการทำDeepFake เอาไว้ว่า
“DeepFake เป็นชื่อเทคโนโลยี มาจากคำว่า Deep แปลว่า ลึก Fake แปลว่า ปลอม คือ ปลอมอย่างลึกซึ้ง แปลไทยเป็นไทยคือ มองไม่ออกว่าของปลอม
มันเป็นเทคโนโลยีที่ทำเกี่ยวกับภาพ ทำเอฟเฟ็กต์ได้มากที่สุดคือ ภาพใบหน้าของคน เรานำภาพของนาย A แล้วนำภาพของนาย B มาซ้อนกับนาย A ทำให้นาย A ทำท่าหรือพูดจาตามที่นาย B ต้องการได้ เหมือนชักใยหุ่นกระบอก เพียงแต่ว่าเราต้องใช้วิดีโอในการทำ” ดร.มนต์ศักดิ์ อธิบาย

ดร.มนต์ศักดิ์ โซ่เจริญธรรม ผอ. ฝ่ายเดตาโซลูชันส์ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA)

ดร.มนต์ศักดิ์ โซ่เจริญธรรม ผอ. ฝ่ายเดตาโซลูชันส์ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA)


DeepFake ทำขึ้นมาได้อย่างไร?
การผลิตคลิปวิดีโอ DeepFake จะต้องมีเทคโนโลยี A.I. ที่เรียกว่า Generative Adversarial Network (GAN) เป็นการสอนให้จักรกลอัจฉริยะประมวลผลเชิงลึก (Deep Learning) แปลง่ายๆ ก็คือ มันจะสามารถ merge สองวิดีโอเข้าด้วยกันได้ คือวิดีโอต้นฉบับของจริงจากคนจริง กับวิดีโออีกอันหนึ่งที่คุณอยากจะใช้เป็นต้นทาง เพื่อทำให้มันไปเปลี่ยนปลายทาง
เมื่อก่อนดูภาพอาจจะหลอนๆ นิดหน่อย เพราะมันไม่ละเอียดมาก แต่เดี๋ยวนี้ภาพมีความคมชัดมาก จนแทบจะมองไม่ออก แล้วก็สามารถสร้างสิ่งที่เมื่อก่อนเป็นไปไม่ได้เลย เช่น ทำให้ Barack Obama ใบหน้าหนุ่มขึ้นอีก 20 ปี
ดร.มนต์ศักดิ์ เล่าเพิ่มเติมว่า การทำ DeepFake ในประเทศไทยยังไม่มีปรากฎให้เห็น แต่ในเมืองนอกมีมานานแล้วตั้งแต่ปี 2014 โดยนักวิจัยในต่างประเทศได้สร้าง Generative Adversarial Networks (GANs) พอเริ่มมีอัลกอริทึม มีการปล่อยสูตรออกมา ก็ทำให้มีคนนำเทคโนโลยีนี้ไปพัฒนาให้แอดวานซ์ขึ้นไปเรื่อยๆ และตอนนี้ก็เริ่มมีการสร้างซอฟต์แวร์ตรวจจับพวกนี้มากขึ้นด้วย

deepfake

ที่มาภาพ : ict-imgs.vgcloud.vn, miro.medium.com, i.insider.com, miro.medium.com2

ตัวอย่าง DeepFake ที่โด่งดังในต่างประเทศ

  1. DeepTomCruise
    ที่เห็นได้ชัดคือ แชนแนล TikTok ของนักแสดงชาย Miles Fisher ซึ่งมีหน้าตาละม้ายคล้าย Tom เป็นทุนเดิม เขาได้ผลิต Fake วิดีโอขึ้นมาและเผยแพร่ในช่อง DeepTomCruise คอนเทนต์ของเขาคือการทำวิดีโอรูปแบบDeepFake โดยสวมใบหน้าดาราดังอย่าง Tom Cruise แล้วมาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น มาเป็นคนทำความสะอาด เป็นพนักงานล้างจาน ฯลฯ ซึ่ง Miles Fisher เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ผ่านสื่อว่าเขาและเพื่อนทำวิดีโอนี้ขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
  2. Linda Carter
    คนนี้เคยเป็นนางงามอเมริกา เมื่อประมาณปี 1976 หรือประมาณ 40 กว่าปีที่แล้ว เธอเคยเล่นหนังเรื่อง Wonder Woman ไว้ ตอนนี้ก็น่าจะอายุ 70 ปีแล้ว พอมีกระแสDeepFake ก็มีคนเอาภาพตอนสาวของเธอมา merge เข้าไปใน Wonder Woman ในเวอร์ชัน 2021 แล้วก็เผยแพร่บนโลกออนไลน์ จนกลายไวรัลไปทั่วโลก
    ความอันตรายของDeepFake สร้างความเสียหายได้
    หากมองอีกมุมหนึ่งDeepFake อาจกลายเป็นเครื่องมืออันตราย ที่สร้างความตื่นตระหนกให้สังคมได้เช่นกัน ยกตัวอย่างกรณีมีคนทำคลิปปลอมในอเมริกา ที่เอาวิดีโอ Barack Obama มา แล้วก็เอาวิดีโอของพิธีกรคนหนึ่ง มาขยับทำปากพูดในเรื่องที่อยากให้ Obama พูด แล้วนำมา merge รวมกัน มันก็จะกลืนภาพเข้าไปกับ Barack Obama ของต้นฉบับ แล้วทำให้ได้ออกมาเป็นคอนเทนต์ที่มันเป็น Fake News คือแถลงเรื่องที่ไม่เป็นจริง หรือพูดเรื่องที่ทำให้เสียหายร้ายแรง
    กรณีนี้ วิดีโอดังกล่าวทำประกาศปล่อยออกมาตอนตี 2 ระบุว่า Barack Obama ขอประกาศลาออก ขอประกาศยุบสภา ขอประกาศการปฏิวัติ ภาวะฉุกเฉินตอนตี 2 กระจายไปทั่ว ทุกคนแตกตื่น เห็นวิดีโอนึกว่าจริง เพราะว่าเอาผู้นำประเทศมาทำเป็น Fake วิดีโอ แก้ข่าวกันไม่ทัน ก็เกิดความเสียหายได้
    สรุปแล้วDeepFake เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์หรือโทษกันแน่?
    ดร.มนต์ศักดิ์ ตอบว่า Deepfake เป็นเหมือนดาบสองคม มีทั้งประโยชน์และอาจจะมีโทษได้ด้วย ประโยชน์คือ ถ้าคุณมี Skill สร้าง Fake วิดีโออะไรก็ได้ คุณจะมีอาชีพที่มีค่าตัวแพงมาก เนื่องจากในวงการสื่อโฆษณาหรือภาพยนตร์ มีความต้องการใช้งานด้านนี้สูงมากในการสร้างหนัง และช่วยลดเวลาการผลิตลงได้ 10 เท่า นี่เป็นโอกาสของแรงงานรุ่นใหม่ที่มี Skill ด้านนี้
    ส่วนในมุมลบ ก็อาจจะมีคนนำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิด เช่น นำไปสร้างข่าวปลอม Fake news ต่างๆ สร้างความเข้าใจผิด สร้างความตื่นกลัว ตรงนี้คนเสพข่าวสารจึงจำเป็นที่จะต้องรู้เท่าทัน รู้จักคิดวิเคราะห์มากขึ้น แล้วก็อย่าตกเป็นเหยื่อ
    กรณีสื่อมวลชน ควรมีวิธีตรวจสอบข่าวปลอม/คลิปปลอม อย่างไร?
    สื่ออาจจะต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีด้าน A.I. คือ อาจจะตรวจสอบด้วยแรงงานคนไม่ไหวแน่ ก็ต้องมีเทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ที่มาแก้กัน อย่างน้อยๆ ก็สามารถช่วยฟิลเตอร์ได้ระดับหนึ่ง ซอฟต์แวร์บางตัวจะบอกได้ว่าคอนเทนต์แบบไหนเป็น Fake news ซึ่งมีความแม่นยำประมาณ 90% แต่ก็ต้องใช้คนมาดูเป็นด่านสุดท้ายด้วย
    อีกประการหนึ่งหนึ่งคือ สื่อต้องพยายาม disrupt ตัวเองให้เท่าทันยุคสมัย เผยแพร่ข่าวในเชิงลึกมากขึ้น และทำการบ้าน เช่น การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การเชื่อมโยงข้อมูล การเล่าเป็นสตอรี่ นำข้อมูลจากหลายแหล่งมารวมกัน อันนี้มันจะ copy ยาก แล้วก็ทำซ้ำกันยาก หรืออาจเชื่อมโยงข้อมูลวิชาการ ข้อมูลต่างประเทศ ในประเทศ เป็นต้น ลักษณะนี้จะทำให้ Value ของสื่อมีมากขึ้น

เครดิตที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/957991

contact ilc

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตแอลกอฮอล์เจล ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

กลวิธีปลดล็อคอุปกรณ์ดิจิตอล
ข่าวสาร

กลวิธีปลดล็อคอุปกรณ์ดิจิตอล

กลวิธีปลดล็อคอุปกรณ์ดิจิตอลระวังตกเป็นเหยื่อ! เผยวิธีการที่ผู้ร้ายสามารถปลอมลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกอุปกรณ์ของเรา!
หลายคนอาจคิดว่าวิธีสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint authentication) นั้นเป็นวิธีการที่มีความปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้ววิธีการดังกล่าวกลับมีข้อบกพร่องที่อาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของผู้ร้ายได้
โดยทั่วไปแล้วลายนิ้วมือของคนเรามักจะทิ้งร่องรอยไว้ตามที่ต่าง ๆ เช่น ประตูรถแท็กซี, หน้าจอสมาร์ตโฟน หรือแม้แต่แก้วไวน์ในร้านอาหาร ซึ่งบทความของทีม Kraken Security Labs ได้เผยว่า จริง ๆ แล้วมันมีวิธีการที่ผู้ร้ายจะสามารถปลอมลายนิ้วมือของเราเพื่อเข้าปลดล็อกอุปกรณ์ได้อย่างไม่ยากเย็น ดังนี้

  1. ค้นหาลายนิ้วมือของเหยื่อ
กลวิธีปลดล็อคอุปกรณ์ดิจิตอล,ค้นหาลายนิ้วมือของเหยื่อ

2.ถ่ายภาพและแต่งภาพด้วย Photoshop ให้เป็นภาพสีเนกาทีฟ (Negative)

กลวิธีปลดล็อคอุปกรณ์ดิจิตอล

3.ใช้เครื่องเลเซอร์พรินเตอร์เพื่อพรินต์ภาพเนกาทีฟลายนิ้วมือลงบนแผ่น Acetate Sheet จะได้รอยนิ้วมือที่มีความนูนเป็น 3 มิติ

กลวิธีปลดล็อคอุปกรณ์ดิจิตอล

4.ใช้กาวติดไม้ (wood glue) ทาและเกลี่ยให้ทั่วลายนิ้วมือบนแผ่น Acetate Sheet

กลวิธีปลดล็อคอุปกรณ์ดิจิตอล

5.เมื่อกาวแข็งตัวจะได้รอยนิ้วมือติดบนกาว ซึ่งผู้ร้ายจะสามารถนำไปใช้ปลดล็อกระบบสแกนนิ้วมือของอุปกรณ์ที่เหยื่อใช้อยู่ได้

กลวิธีปลดล็อคอุปกรณ์ดิจิตอล

จากการทดลองของ Kraken พบว่า พวกเขาสามารถใช้วิธีดังกล่าวในการปลดล็อก iPad, MacBook Pro หรือแม้แต่ Hardware Wallet ที่ใช้ระบบสแกนนิ้วมือได้อย่างไม่มีปัญหา
วิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ กลวิธีปลดล็อคอุปกรณ์ดิจิตอล
การสแกนนิ้วมือไม่ควรถูกพิจารณาว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย และเราไม่ควรที่จะพึ่งพาการสแกนนิ้วมือในทุกระบบ การกระทำเช่นนี้จะทำให้ข้อมูลของคุณ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล (จาก hardware wallet) เสี่ยงต่อการถูกโจมตีได้
แม้ว่าคนเราจะมีลายนิ้วมือที่ไม่เหมือนกัน แต่มันก็ยังถูกนำไปลอกเลียนได้ง่าย ดังนั้นผู้ใช้ควรพิจารณาในการใช้พาสเวิร์ดที่คาดเดาได้ยาก (Strong password) และการใช้ระบบยืนยันตัวตน 2 ชั้น (2 Factor Authentication) แทน

เครดิตที่มา https://www.beartai.com/news/itnews/860292

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตแอลกอฮอล์เจล ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

contact ilc

ถูกดูดเงินจากบัญชี
ข่าวสาร

ถูกดูดเงินจากบัญชี มีการป้องกันอย่างไรบ้าง เช็กเลยที่นี่!!!!

ถูกดูดเงินจากบัญชี 18 ต.ค. 64 จากกรณีผู้ใช้บริการถูกโอนเงินจากบัญชีติดต่อกันหลายรายการจนในขณะนี้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก จนโลกโซเชียลมีการตั้งกลุ่ม “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีไม่รู้ตัว” ซึ่งผู้เสียหายหลายรายได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การถูกดูดเงินออกจากบัญชีซึ่งขณะนี้สมาชิกในกลุ่มมีถึง 5.5 หมื่นรายเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามสมาชิกบางรายได้มาแชร์วิธีการเบื้องต้นเพื่อกันการถูก ถูกดูดเงินจากบัญชี โอนเงินออกจากบัญชีโดยสรุปดังนี้

  1. ตั้งบัญชีบัตรเดรดิตในการทำธุรกรรมในแอปพลิเคชั่นของธนาคาร ตั้งวงเงินให้กลายเป็น 0 บาท เมื่อต้องการใช้ซื้อของค่อยเข้าไปเปลี่ยนวงเงินที่ต้องการจะใช้ใหม่ โดยตั้งให้พอดีกับการใช้แต่ละครั้ง
  2. ลบการผูกบัญชีบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต ที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชั่น เฟซบุ๊ก แอปพลิเคชั่นช้อปปิ้งต่างๆ และ ในระบบ google play หรือ apple store ออกให้หมด
  3. สำหรับคนที่โดนหักเงินจาก facebook นำเงินไปจ่ายค่ายิงแอดโฆษณา ให้เข้าไปที่ดูการแจ้งเตือนว่า มีคนดึงบัญชีของเราเข้าไปบัญชีโฆษณาของ Facebook หรือไม่ หลังจากนั้นให้ไปไล่หาชื่อของเรา ตรงบทบาทผูดูแลบัญชี และกดลบผู้ใช้ออกทันที หลังจากนั้นให้ลบบัญชีที่ทำไว้เพื่อทำธุรกรรมผ่านเฟซบุ๊กออก
  4. หากใครพบความผิดปกติของบัญชีธนาคารของตนเอง สามารถติดต่อสถาบันการเงิน เพื่ออายัดบัตร หรือ บัญชีโดยทันที ตามเบอร์โทรดังต่อไปนี้ตามภาพ
ถูกดูดเงินจากบัญชี
วิธีป้องกันเบื้องต้น,ถูกดูดเงินจากบัญชี
เบอร์โทร call center ธนาคาร,ถูกดูดเงินจากบัญชี

นอกจากนี้ เพจ Drama addict ได้แนะวิธีการทำธุรกรรมการเงินทางออนไลน์ในการผูกบัญชีเพื่อซื้อของอย่างปลอดภัย ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือสโตร์ออนไลน์ โดยการเปิด ทรูวอลเล็ต แล้วใช้ บัตรเครดิต we card ในแอปฯ ไปผูกกับบัญชีออนไลน์ทั้งหมด แล้วรักษายอดเงินในวอลเล็ตไว้ที่หลักสิบบาท หลังจากนั้นหากต้องการจะต่อสมาชิกอะไร ให้เติมเงินตามจำนวนที่จะจ่าย แล้วกดจ่ายทันที สรุปคคือ ใช้บัญชีธนาคารเชื่อมกับทรูวอลเล็ตอันเดียว แล้วใช้ ทรูวอลเล็ต ไปผูกกับบริการอื่นๆแทน แล้วตั้งค่า sms ของบัญชีธนาคารให้แจ้งเตือนหากมีการทำธุรกรรมการเงินมีการเข้าออกของเงินในบัญชี เท่านี้ก็น่าจะปลอดภัยในระดับนึง

truewallet,drama-addict

ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำให้ ผู้เสียหายแจ้งไปยังธนาคาร เพื่ออายัดบัตรและปฎิเสธการชำระเงินค่าบริการทางออนไลน์ และตรวจสอบรายการเดินบัญชี รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในทุกพื้นที่ใกล้บ้าน เพื่อสืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้กระทำความผิดและนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


สำหรับแนวทางการป้องกันการถูกดูดเงินจากบัญชี กรณีที่คนร้ายได้ข้อมูลที่อยู่ด้านหน้าบัตร และตัวเลขรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร คนร้ายจึงสามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ที่มีมูลค่าไม่สูงได้ โดยไม่ต้องใช้ OTP
ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือผ่านทางออนไลน์ ที่ต้องแจ้งข้อมูลด้านหน้าบัตรและรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร หากต้องการเข้าไปที่เว็บไซต์ใด ขอให้พิมพ์ชื่อเว็บด้วยตัวเองเพื่อป้องกันเข้าไปสู่เว็บไซต์ปลอมที่มีความแนบเนียนมาก
นอกจากนี้ยังประชาชน ควรนำแผ่นสติ๊กเกอร์ทึบแสงปิดรหัส 3 ตัวด้านหลังบัตร หรือจดรหัส 3 ตัวดังกล่าวเก็บไว้ แล้วใช้กระดาษทรายลบตัวเลขรหัสดังกล่าวออกจากด้านหลังบัตร เพื่อความปลอดภัยในการใช้จ่ายประจำวัน และป้องกันมิจฉาชีพ มิให้แอบถ่ายรูปด้านหน้าและหลังบัตรเพื่อนำไปใช้จ่ายในโลกออนไลน์ ถูกดูดเงินจากบัญชี

เครดิตที่มา https://www.tnnthailand.com/news/socialtalk/93975/

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตแอลกอฮอล์เจล ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

contact ilc
Retail-CBDC
ข่าวสาร

Retail CBDC “บาทดิจิทัล” ทดสอบใช้ปีหน้า เพิ่มตัวเลือกชำระเงิน

Retail CBDC “บาทดิจิทัล” ทดสอบใช้ปีหน้า เพิ่มตัวเลือกชำระเงิน
สกุลเงินดิจิทัลเป็นเทรนด์ที่มาแรงในโลกยุคใหม่ โดยในหลายประเทศได้รับความนิยมมากขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทยเอง ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นประเทศแรก ๆ ของโลกที่ได้เริ่มศึกษาและพัฒนาไปสู่ภาคประชาชนเรียกว่า “retail CBDC”ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดจากโครงการ “อินทนนท์”
โดยเริ่มวางแนวทางพัฒนา retail CBDC เมื่อเดือน เม.ย. 2564 ที่ผ่านมาถึงขณะนี้กำลังจะเริ่มสู่กระบวนการทดสอบ“การใช้จริงในวงจำกัด” ก่อนขยายสู่วงกว้างในระยะถัดไป ซึ่งจะเป็นการยกระดับระบบโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินของประเทศสู่โลกดิจิทัลในที่สุด
ประชาชนหนุน Retail CBDC
โดย “วชิรา อารมย์ดี” ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า หลังจากเดือน เม.ย. 2564 ที่ ธปท.ได้รวบรวมผลการศึกษาผลกระทบต่อภาคการเงินไทย และสำรวจความเห็นจากสาธารณชนผ่าน direction paper พบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนา retail CBDC ของ ธปท.
โดยประชาชนมองว่าจะทำให้ไทยมีระบบโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่อัพเกรดมากขึ้น ซึ่งประชาชนจะมีทางเลือกในการใช้งานมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนทางด้านบริหารจัดการเงินสดของประเทศจะลดลง มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น และลดการผูกขาดของภาคเอกชนได้ รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจภาครัฐจะมีประสิทธิภาพ โดยสามารถทำได้ตรงถูกคนมากขึ้น
“ธปท.ประเมินว่าความต้องการใช้ retailCBDC ของประชาชนจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะเข้ามาเป็นอีกทางเลือกในการชำระเงินให้กับประชาชน โดยอาจถูกใช้ทดแทนเงินสด และเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ได้บางส่วนในระยะต่อไป” นางสาววชิรากล่าว
ไม่กระทบระบบ-นโยบายการเงิน
ขณะที่ผลต่อนโยบายการเงินจะมี 2 ส่วน ได้แก่

1.ปริมาณเงินในระบบ พบว่าCBDC จะไม่ทำให้ปริมาณเงินเปลี่ยนแปลง หากใช้ CBDC ทั้งกรณีทดแทนเงินสด หรือรูปแบบ e-Money เพียงแค่เปลี่ยนองค์ประกอบของเงินมาในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งCBDC ไม่ต่างจากการใช้ธนบัตร
2.การหมุนเวียนของเงิน จะช่วยเพิ่มความสะดวก ลดต้นทุนการเงิน แม้ว่าเงินจะหมุนเวียนเร็วขึ้น แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงินภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ให้ความสำคัญกับการดูแลต้นทุนทางการเงินผ่านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
“การออกแบบและการพัฒนา retail CBDC ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องไม่สร้างผลกระทบรุนแรงต่อการส่งผ่านนโยบายการเงิน การทำงานของระบบสถาบันการเงิน และเสถียรภาพโดยรวมของภาคการเงินไทย โดยประโยชน์ในแง่ภาคประชาชนจะมีทางเลือกที่มีความปลอดภัยสูงและเหนือการชำระเงินรูปแบบเงินสด e-Money ภาคธุรกิจสถาบันการเงินมีระบบการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ และประเทศได้โครงสร้างพื้นฐานทันสมัยรับโลกดิจิทัล” นางสาววชิรากล่าว
Q2 ปีหน้าทดสอบใช้จริงวงจำกัด
ทั้งนี้ สเต็ปต่อไป “วชิรา” บอกว่า ภายในไตรมาส 2 ปี 2565 จะมีการทดสอบใช้งานจริง (pilot test) ซึ่งต้องตอบโจทย์ครอบคลุมพฤติกรรมและผู้เล่นหลากหลาย รองรับการใช้งานพื้นฐาน (foundation track) ที่มีการใช้งานหลากหลายรูปแบบ เพื่อทดสอบผลในเชิงเทคนิคกับการใช้งานจริง
“เบื้องต้นจะเริ่มใช้ภายใน ธปท.ก่อน โดยจะร่วมกัน 4 กลุ่ม ได้แก่ ธปท. ประชาชน ร้านค้า และผู้ประกอบการทั้งสถาบันการเงิน และน็อนแบงก์ หรือผู้ให้บริการระบบชำระเงิน โดย ธปท.มีการกำหนดขอบเขตการใช้ที่จำกัด ทั้งพื้นที่ หรือจำนวนผู้ใช้งาน และเป้าหมายการทดสอบภายในไว้ในทุกไตรมาส เพื่อดูปัญหาอุปสรรค หาแนวทางปรับแก้และประสิทธิผลจากการทดสอบก่อนจะขยายการใช้ในวงกว้างต่อไป” นางสาววชิรากล่าว
ทั้งนี้ ขอบเขตรูปแบบ function พื้นฐานเช่น การรับ แลก และชำระสินค้าบริการ ซึ่งมีทั้งรูปแบบ online & offline โดยเป็นการใช้งานภายในกลุ่มทดสอบที่สมัครใจ ทั้งประชาชน ร้านค้าต่าง ๆ ทั่วไปภายในพื้นฐานที่กำหนด และการจำกัดจำนวนเงินในวอลเลตที่ทดสอบ ยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าควรอยู่ในระดับไหนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ต้องประเมิน
“ในไตรมาส 2 ปีหน้าจะเป็น pilot project ทดสอบจำกัดเหมือนประเทศจีนที่ทยอยเริ่มใช้เป็นมณฑล ซึ่งใช้เวลาเป็น 1-2 ปี เราก็ทดลองทำและค่อยปรับในรูปแบบที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจก่อนจะขยายใช้วงกว้างในระดับประเทศ” ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
ลดการรั่วไหลเงินอุดหนุนภาครัฐ
ขณะที่ “แซม ตันสกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด มองว่า การพัฒนา CBDC ของ ธปท.ดังกล่าว นับเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นของไทยในการก้าวสู่สังคมไร้เงินสด (cashless society)
และเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล (digital asset) ที่เป็น stable coin ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของราคา โดยเป็นต่อยอดจากโครงการอินทนนท์ที่ใช้ทำธุรกรรมระหว่างธนาคารกลางกับธนาคารกลาง มาสู่ภาคธุรกิจ
โดย CBDC ที่พัฒนาเป็นโมเดลเดียวกับที่ใช้ในประเทศจีน คือ เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่อยู่บนเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินได้ ว่าเริ่มจากไหนและจบที่ไหน ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนโครงการภาครัฐได้อย่างดีในการทำนโยบายโดยตรงกับประชาชน
ทั้งนี้ CBDC จะช่วยลดการรั่วไหลของเงิน การทุจริต เพราะสามารถตรวจสอบได้ เช่น นโยบายให้เงินผู้ปกครองช่วยค่าเทอม 2,000 บาท และสามารถใช้ในร้านค้าที่กำหนด
โดยเงินจะอยู่ในโมบายแบงกิ้ง หรือแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง แต่จะถูกแยกบัญชี เป็นสกุลเงินดิจิทัลตามวงเงินที่กำหนดไว้ จากเดิมที่รัฐจะให้เงินผ่านประกันสังคมหรือโอนเข้าบัญชี ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินได้นำไปใช้ถูกวัตถุประสงค์หรือไม่
“แบงก์ใหญ่ ๆ มีส่วนร่วม ส่งทีมงานเข้าไปช่วยพัฒนาระบบตั้งแต่โครงการอินทนนท์แล้ว พอขยายมาสู่ CBDC ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องดี นอกจากจะหนุนสังคมไร้เงินสด ยังทำให้เงินไม่ตกหล่นระหว่างทาง สามารถตรวจสอบได้ หากรัฐทำนโยบายกับประชาชน ซึ่งจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว ขึ้นกับการสนับสนุนผ่านโครงการภาครัฐ โดยหลังจากมีการทดลองใช้ไตรมาส 2 ปีหน้า ก็คาดว่าในปี 2566 น่าจะขยายวงกว้างขึ้น และในอนาคตต่อยอดไปสู่การโอนเงินที่ทำได้ง่ายขึ้น” นายแซมกล่าว
ถือว่าเป็นพัฒนาการที่น่าสนใจเลยทีเดียว โดยการที่ภาครัฐลงมือพัฒนาเอง น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี
เครดิต : https://www.prachachat.net/finance/news-743365

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตแอลกอฮอล์เจล ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

contact ilc
error: Content is protected !!